Thursday, 25 April 2024

ค้นหาประกันรถยนต์

[su_row]
[su_column size=”1/2″]โปรโมชั่นประกันรถยนต์[/su_column]

[su_column size=”1/2″]บทความประกันรถ[/su_column]
[/su_row]

ประกันรถ

คำถามที่หลายคนสงสัย ซื้อประกันรถยนต์ จะซื้อตรงกับบริษัทประกัน หรือซื้อผ่านโบรคเกอร์ มันแตกต่างกันยังไง? แล้วซื้อประกันรถแบบไหนจะดีกว่ากัน เรามาหาคำตอบเพื่อประกอบกับการตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ของคุณกันดีกว่า

1. เทียบกันเรื่องของราคาเบี้ยประกันรถ
ส่วนใหญ่ราคาเบี้ยประกันรถนั้นจะออกมาจากบริษัทประกันในแต่ละเจ้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะให้โบรคเกอร์ประกันรถขายแทน หรือบริษัทประกันรถขายตรงเอง แต่บางครั้งราคามันอยู่กับส่วนลดที่ บริษัทประกันและโบรคเกอร์นั้นๆ จะยินดีให้ส่วนลดได้เท่าไหร่ ฉนั้นสรุปคือ ซื้อประกันรถตรงๆกับบริษัทเลยไม่ได้ราคาถูกเสมอไป หรือซื้อกับโบรคเกอร์ก็จะไม่ได้ราคาที่ถูกเสมอไปเช่นกัน เรื่องราคาถ้าเป็นปัจจัยหลักของคุณก็ลองเทียบราคาง่ายๆบนเว็บแต่ละบริษัทประกันกับเว็บโบรคเกอร์ประกันรถได้เลย

2. เทียบกันเรื่องความคุ้มครอง หรือทุนประกัน
ความคุ้มครองและทุนประกันนั้นขึ้นอยู่กับราคาของเบี้ยประกันด้วย ซึ่งบริษัทประกันเป็นคนกำหนดให้โบรคเกอร์ขายอยู่แล้ว เว้นแต่บางโบรคเกอร์ที่มีอำนาจต่อรองกับบริษัทประกันรถมากหน่อย ก็สามารถร่วมมือกันและออกแพคเกจพิเศษของประกันรถยนต์ได้อยู่บ้าง ซึ่งถ้าคุณให้ความสำคัญกับทุนประกัน อยากได้ทุนประกันรถเยอะๆลองมองหาแพคเกจประกันรถยนต์จากโบรคเกอร์ดูว่าเหมาะสมกับคุณและตรงตามที่คุณอยากได้ไหม

3. เทียบเรื่องการผ่อนประกันรถยนต์
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทประกันเอง หรือโบรคเกอร์ประกัน ก็มีผ่อนเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ใครจะให้ผ่อนได้มากน้อยกว่ากัน ขั้นต่ำก็ 3 เดือน และดอกเบี้ย 0% อยู่แล้ว เมื่อคุณเลือกเบี้ยประกันรถได้แล้วแต่กำลังทรัพย์ไม่ไหวที่จะจ่าย ก็ลองหาโบรคเกอร์ที่สามารถผ่อนได้ โบรคเกอร์บางเจ้าให้ 0% ถึง 10 เดือนก็มีเยอะไป

4. เทียบเรื่องการบริการ “ก่อนการขาย”, “หลังการขาย”, “และเวลาเกิดเหตุเคลมประกัน”
บริการก่อนการขายประกันรถยนต์
สิ่งที่แตกต่างระหว่างบริษัทประกัน กับโบรคเกอร์ประกัน เมื่อเราจะซื้อประกันรถยนต์นั้นชัดเจนมาก ส่วนใหญ่ทางโบรคเกอร์จะมีเบี้ยประกันรถให้เลือกหลากหลายกว่าบริษัทประกันตรง เพราะโบรคเกอร์ได้รวบรวมข้อมูลเบี้ยประกันแต่ละบริษัทไว้แทบทั้งหมดทุกเจ้า พนักงานขายจะพยายามขายและเสนอให้คุณอยู่แล้ว ให้คุณถามไปเลยว่าประกันแบบไหนที่เหมาะสมกับการใช้รถของเรา และเรารับราคากับทุนประกันได้แค่ไหน อย่างไรก็ตามไม่ได้แปลว่าบริการก่อนการขายของโบรคเกอร์จะดีเสมอไป พนักงานขายของโบรคเกอร์ประกันรถพูดจาไม่แคร์ลูกค้า หรือให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนก็มีเยอะ อยู่ที่ว่าคุณจะประทับใจโบรคเกอร์ไหน บางทีพนักงานขายของบริษัทประกันโดยตรงนั้นอาจจะแคร์คุณมากกว่าก็ได้ เพราะเค้าคือตัวแทนเป็นภาพลักษณ์ขององค์กรบริษัทประกันโดยตรง

บริการหลังการขายประกันรถยนต์
ส่วนมากบริการหลังการขายต้องยกให้โบรคเกอร์ในเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่เราจะได้รับเมื่อเราซื้อประกันรถยนต์กับเค้าแล้ว อยู่ที่ว่าเจ้าไหนจะให้อะไรเป็นพิเศษสำหรับลูกค้า เพราะโบรคเกอร์ประกันจะพยายามรักษาลูกค้าเก่า แข่งขันกันสูงว่าใครจะเก็บความประทับใจให้ลูกค้าอยู่ในมือเพื่อต่อประกันรถในปีต่อๆไปมากที่สุด บริการหลังการขายต้องยกให้โบรคเกอร์ประกันที่มีสิทธิประโยชน์ให้เรามากกว่า บริษัทประกันโดยตรง

บริการเวลาเกิดเหตุ หรือเคลมประกัน
โดยปกติเวลาเกิดเหตุ คุณสามารถแจ้งเครมได้ทั้งคู่ ไม่ว่าจะโทรตรงกับบริษัทประกัน หรือผ่านโบรคเกอร์ให้ช่วยประสานงานกับบริษัทประกันก็ได้ กระบวนการและขั้นตอนไม่ต่างกันมาก แต่จะมีในบางกรณีที่บริษัทประกันตรงจะดำเนินเรื่องเครมช้า ส่วนนี้โบรคเกอร์ประกันจะเข้ามาช่วยคุณได้ในการตามเรื่องให้ เพราะโบรคเกอร์มีอำนาจต่อรองกับบริษัทประกันค่อนข้างมากถ้าคุณเป็นลูกค้าของเค้า

สรุปเรื่องการทำประกันรถยนต์ไม่ว่าคุณจะทำกับบริษัทประกันโดยตรง หรือทำประกันรถผ่านโบรคเกอร์ มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ยิ่งยุคสมัยนี้การแข่งขันบนโลกออนไลน์สำหรับประกันรถยนต์นั้นสูงมาก ซึ่งก็เป็นข้อดีที่ให้เราสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน เลือกบริษัทที่คุณสนใจและไว้ใจ จะทำตรงหรือผ่านโบรคเกอร์ก็ได้ ดูโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเลือกความคุ้มค่า ความคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ที่เราจะได้รับให้มากที่สุด ดูเบี้ยประกันดีๆอย่าเห็นว่าเบี้ยถูกอย่างเดียวดูด้วยว่าเมื่อเกิดเหตุเงื่อนไขของประกันรถที่คุณจะทำนั้นซ่อนค่าเสียหายส่วนแรกไว้ด้วยหรือเปล่า จะได้ไม่ต้องเสียน้อยเสียมาก หรือถ้ามีและคุณยอมรับมันได้ มั่นใจว่าขับรถดีแต่อยากได้เบี้ยถูกๆก็ทำเถอะครับ เอาที่คุณไหวกับราคาเบี้ยเท่านั้นเอง


[su_row]
[su_column size=”1/2″]โปรโมชั่นประกันรถยนต์[/su_column]

[su_column size=”1/2″]บทความประกันรถ[/su_column]
[/su_row]